ในปัจจุบันการใช้ยาลดน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื่องจากยาฉีดลดน้ำหนัก หรือปากกาลดน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าและผลข้างเคียงที่น้อยกว่ายาลดน้ำหนักในอดีต ไม่มีการกระตุ้นระบบประสาท ไม่เร่งอัตราการเผาผลาญ และไม่เกิดโยโย่หลังจากที่หยุดยา ยาฉีดลดน้ำหนัก GLP-1 analog นั้นมีทั้งแบบรายวันและรายสัปดาห์
สำหรับแบบรายวันคือ ยา Liraglutide
สำหรับรายสัปดาห์ คือ ยา Semaglutide และ Dulaglutide
แต่อย่างไรก็ตามาฉีดลดน้ำหนัก GLP-1 analog นั้นก็มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยขึ้นคือ อาการคลื่นไส้ อาเจียนในช่วงแรกที่ร่างกายกำลังปรับตัวกับยา เนื่องจากการขับเคลื่อนของอาหารออกจากกระเพาะช้ากว่าปกติ ซึ่งสามารถลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ได้โดย
- ปรับขนาดยา (dose) จากน้อยไปมากตามแพทย์สั่ง เช่น Liraglutide เริ่มจาก 0.6 มิลลิกรัมต่อวัน Semaglutide เริ่มจาก 0.25 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ และ Dalaglutide เริ่มจาก 0.75 มิลลิกรัมต่อสัปดาห์ ค่อยๆ ปรับขนาดยาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยในแต่ละราย
- รับประทานอาหารให้น้อยลงในแต่ละมื้อ โดยอาจแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ระหว่างวัน
- เมื่อรู้สึกอิ่มแล้วควรหยุดรับประทาน อย่าฝืนทานต่อ
- รับประทานอาหารช้าๆ หรือเคี้ยวอาหารให้ช้าลง พยายามเคี้ยวให้ละเอียด
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม หรือโซดา
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มันๆ เช่น ผัดหรือทอด และอาหารที่มีรสหวานจัด
หลังจากฉีดยาลดน้ำหนัก จะรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น อิ่มนานขึ้น มีความอยากอาหารลดลง สำหรับอาการคลื่นไส้ อาเจียนจะเริ่มดีขึ้น หลังจากฉีดยาไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตามการฉีดยาลดน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็น liraglutide, semaglutide หรือ dalaglutide จะไม่ได้ผลเลย หากไม่ควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย การควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราไปถึงน้ำหนักเป้าหมายได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลดน้ำหนัก เพราะยาในกลุ่มนี้เป็นยาที่มีราคาค่อนข้างแพง และยังไม่ทราบถึงผลข้างเคียงของยาในระยะยาว เนื่องจากเป็นยาใหม่ คงต้องติดตามผลข้างเคียงระยะยาวต่อไป
ดังนั้นการใช้ยาในกลุ่ม GLP-1 analog นี้ ควรมีการติดตามโดยแพทย์ เป็นระยะ และประเมินน้ำหนักเมื่อได้รับยาครบ 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน ว่าควรจะหยุดใช้ปากกาลดน้ำหนักหรือควรจะใช้ต่อไป โดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับผู้ป่วยในแต่ละราย
เรียบเรียงโดยเมดดีเซ้นท์คลินิก Medecent Clinic
Line ID: @paf4857g
MEDECENT CLINIC 